ปัญหาต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่มีเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งนั้น บางปัญหาก็ยังคงอยู่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังแก้ไขไม่ได้ พอมีโอกาสได้อ่านหนังสือ “แผนแม่บทเพื่อการฟื้นฟูชาติ” ของอาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ก็ยังคงมองเห็นปัญหาสังคมไทยที่ยังค้างคามาจนถึงปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้ แม้จะพูดถึงการแก้ไขปัญหาในยุควิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง แต่แนวทางการแก้ไขปัญหานั้นเป็นนิรันดร์ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ๆ ของสังคมที่จะต้องทำให้เข้มแข็งและยั่งยืน ใน 5 เรื่อง ดังต่อไปนี้
1) การเมืองที่พึงปรารถนา มีองค์กรตรวจสอบและกระบวนการต่าง ๆ กำกับการทำงานของรัฐบาลและผู้ใช้อำนาจทางการเมืองต่าง ๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากการมีส่วนร่วมในทุกระดับ เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่จะได้บุคคลรุ่นใหม่กรอบความคิดแบบใหม่นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลที่มีคุณภาพดีขึ้น ประชาชนมีบทบาทมากขึ้นในการติดตามกำกับดูแลรัฐบาล และในการจัดการดูแลตนเอง
2) ระบบราชการที่มีคุณภาพ ได้มีการพิสูจน์แล้วทั่วโลก ว่าควรมีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยบทบาทที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิส่วนหนึ่งใช้คำว่า “กลไกประชารัฐ” ซึ่งหมายถึง วิธีการ กระบวรการ และกลไกที่ประชาชนกับภาครัฐร่วมกันจัดการความเป็นไปของสังคมให้บรรลุสภาพที่พึงปรารถนาร่วมกัน โดยระบบราชการเป็นส่วนหนึ่งของ “กลไกประชารัฐ” ระบบราชการจึงไม่ควรใหญ่โตเพราะบทบาทสำคัญควรอยู่ที่ประชาชน หรือประชาสังคม โดยราชการควรเป็นผู้เกื้อหนุนและกำกับดูแลเฉพาะส่วนที่จำเป็น จุดสำคัญคือการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างใกล้ชิด กว้างขวางและต่อเนื่อง โดยร่วมออกกติกา ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมรับประโยชน์ และร่วมไปหมด ทุกพื้นที่ ทุกระดับ นอกจากได้เรียนรู้ร่วมกันแล้วยังสามารถพัฒนาไปได้พร้อม ๆ กัน
3) ระบบค่านิยม จริยธรรม วัฒนธรรม และศาสนาที่เหมาะสม ค่านิยมที่บกพร่องต้องทำการปรับปรุง คือ ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ชอบบริโภค ชอบคนร่ำรวย เฉยเมยต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เน้นการมีจริยธรรมหรือคุณธรรม การรณรงค์ด้านระบบค่านิยม จะต้องโยงไปถึงระบบคุณธรรมจริยธรรม วัฒนธรรม โดยนำสิ่งที่ดีมาทดแทนสิ่งที่บกพร่อง ด้านศาสนาก็ควรปฏิรูปเพื่อให้ศาสนามีระบบการจัดการที่เป็นอิสระ มีประสิทธิภาพ คุณภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของสังคมมากขึ้น เมื่อปฏิรูปอย่างจริงจังจะทำให้บุคลากรในวงการศาสนามีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับนับถือมากขึ้น นำไปสู่ระบบคุณธรรม จริยธรรมที่ดีขึ้น ตลอดจนนำไปสู่ระบบค่านิยมที่ดีขึ้นด้วย นำสู่วัฒนธรรมที่สูงขึ้น เมื่อประชากรของประเทศมีคุณภาพ ทั้งร่างกาย จิตใจ คุณธรรมและศีลธรรม ก็จะเป็นผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจด้วย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มุ่งสร้างสรรค์ความมั่นคงในชีวิต และความสงบสุขของบุคคลและสังคมเป็นสำคัญ
4) ระบบเศรษฐกิจที่สมดุล โดยเน้นการเติบโตอย่างดุลยภาพ ทั้งระดับมหภาคและฐานราก นั่นคือระดับท้องถิ่นหรือชุมชน โดยระดับมหภาคให้เน้นที่คุณภาพ เช่น คน วิธีการ เทคโนโลยี สินค้า บริการ ฯลฯ ซึ่งกระบวนการในการสร้างคุณภาพที่ดีต้องเน้นไปที่การจัดการ การเรียนรู้ และโครงสร้างของเศรษฐกิจ ในระดับท้องถิ่นหรือชุมชน ควรเสริมสร้างความเข้มแข็งและเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายทั้งระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง ให้เกิดพลังที่เหนียวแน่น มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เมื่อท้องถิ่นพึงตนเองได้ มีความมั่นคง แข็งแรง สามารถปรับตัวไปตามสภาพที่เหมาะสม เป็นเกราะคุ้มกันผลกระทบจากเศรษฐกิจมหภาคหรือเศรษฐกิจโลก เมื่อท้องถิ่นเข้มแข็ง ก็จะเจริญมั่นคงในทุก ๆ มิติของท้องถิ่น และจะเป็นระบบชุมชนดูแลตนเอง กลายเป็นฐานที่แข็งแรงมั่นคงของสังคม
5) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ การศึกษาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากของสังคม แต่ระบบการศึกษาของไทยได้สะสมความอ่อนด้อยมานาน ถึงเวลาที่ควรปฏิรูปตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องกันมาหลายรอบหลายสมัยแล้ว ต้องสร้างระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ ต้องไม่เน้นที่อาคาร อุปกรณ์ ฯลฯ แต่เน้นไปที่ระบบการเรียนรู้ที่เสริมสร้างความสามารถที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง สอดคล้องกับชุมชน ระบบการจัดการการศึกษาที่กระจายอำนาจไปสู้ท้องถิ่น คุณภาพของบุคลากรและการพัฒนาบุคลากร ปฏิรูปโครงสร้างทางการศึกษาและระบบบริหารบุคลากร ค่าตอบแทน โอกาสเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง มีแผนแม่บททางการศึกษา ถ้าจะให้ได้ผลอย่างแท้จริง ต้องมี “พระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิรูปการศึกษา” โดยมีการยกร่างที่เปิดเผย การมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องอย่างหลาหลาย จะนำมาซึ่งกระบวนการคัดสรรสิ่งที่ดีมีประโยชน์ และจะทำให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากทั้ง 5 เรื่องใหญ่นี้ ถูกแก้ไขอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันนี้ สังคมไทยคงมีความเข้มแข็ง มีสันติสุข และคงพัฒนาประเทศไปได้ไกลอย่างมั่นคงไปแล้ว
สามารถเข้าไปอ่านหนังสือฉบับเต็มได้ที่
https://paiboon.net/?p=archives&act=detail&id_archives=12
และยังมีเรื่องราวและองค์ความรู้ดี ๆ อีกมากมาย รอให้ทุกคนเข้าไปค้นหากันที่
“จดหมายเหตุไพบูลย์วัฒนศิริธรรม (ออนไลน์)” บนเว็บไซต์ www.paiboon.net
ขอบคุณภาพประกอบจาก
https://www.theunityribbon.org/
https://www.prachachat.net/
https://library.parliament.go.th/
https://www.matichon.co.th/
https://tonkit360.com/