ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ ได้กล่าวถึงเรื่องธรรมาภิบาลอย่างน่าสนใจ ในช่วงเสวนางานปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ 9 หัวข้อ “นโยบายของจริง ประชาชนร่วมได้จริง สังคมได้ประโยชน์จริง” เมื่อ วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสรุปได้ดังนี้
คำว่า ธรรมาภิบาล เกิดขึ้นมากว่า 20 ปี มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Good Governance โดยรวมหมายถึง เครื่องมือในการการปกครองที่ดี ใช้กับคนธรรมดาได้ ตามหลักสากลปัจจุบันคร่าวๆ มีดังนี้ มีความรับผิดชอบ ความโปร่งใส ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว มีความเท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มีประสิทธิภาพประสิทธิผล มีนิติรัฐนิติธรรม มีการมีส่วนร่วม และมีข้อตกลงร่วมกัน มันคือนวัตกรรมในการปกครอง คือเทคโนโลยีทางสังคมประเภทหนึ่ง
ที่ผ่านมาทั้งภาครัฐภาคและเอกชนมีโครงการทางด้านธรรมาภิบาลมากมาย ส่วนใหญ่สร้างตัวชี้วัดไปที่กระบวนการ ไม่ได้วัดไปที่ผลลัพธ์ ธรรมาภิบาลที่ดีคือการทำให้คอร์รัปชั่นลดลง ดังนั้นตัวชี้วัดควรไปวัดที่การคอร์รัปชั่น
ในระดับสากล 25 ปีผ่านมาคะแนนคอรัปชั่นของประเทศไทยเท่าเดิมไม่เคยเปลี่ยน แต่อันดับสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าประเทศอื่นเปลี่ยนไปแล้วเขาพัฒนาดีขึ้นกว่าเรา ปัญหาคือการลงทุนจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าการคอร์รัปชันเริ่มมีผลกระทบต่อการลงทุน การมีค่าจ้างที่ราคาถูกเริ่มไม่ดึงดูดการลงทุน ประเทศที่เลือกจะลงทุนกับเราประเทศที่โปร่งใสคุ้นเคยกับระบบที่ชัดเจนไม่คุ้นกับระบบการต่อรองและเจรจาแบบไทย แต่ประเทศที่คุ้นเคยกับระบบการเจรจาต่อรองแบบไทยคือประเทศที่มีระดับการคอร์รัปชั่นสูงเช่นกัน หมายความว่าอำนาจต่อรองของเราเริ่มลดลง margin ทางเศรษฐกิจเราเริ่มลดลง
หากเราทำให้ CPI (corruption perceptions index) หรือดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยให้สูงขึ้น ดีขึ้น เพื่อให้สากลเห็นว่าเราดีขึ้นแล้วมาลงทุนกับเรา ทำเพียง 4 เรื่อง คือ
ธรรมาภิบาลต้องทำ 4 เรื่องนี้ให้ลดลง ทำให้มีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วม มีความโปร่งใส และมีข้อตกลงร่วมกัน จะเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมาก
สามารถเข้าไปชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/IJnUyu7_yhI
และยังมีเรื่องราวและองค์ความรู้ดี ๆ อีกมากมาย รอให้ทุกคนเข้าไปค้นหากันที่
“จดหมายเหตุไพบูลย์วัฒนศิริธรรม (ออนไลน์)” บนเว็บไซต์ www.paiboon.net